เซฟ เดอะ ชิลเดรน  เป็นหนึ่งในองค์กรแรกที่ลงพื้นที่ช่วยเหลือหลังเหตุการณ์สึนามิครั้งใหญ่เมื่อวันที่ 26  ธันวาคม 2547  ซึ่งสร้างผลกระทบที่ยากจะลืมเลือนในประเทศไทย ที่มีผู้เสียชีวิตหลายพันคนและครอบครัวอีกมากมายที่สูญเสียบ้านเรือน ในขณะนั้นองค์กรได้จัดตั้งพื้นที่ปลอดภัยสำหรับเด็ก ฟื้นฟูการเรียนรู้ผ่านโรงเรียนชั่วคราว และให้การช่วยเหลือทางจิตใจแก่เด็กที่ได้รับผลกระทบ โดยทีมที่ลงช่วยเหลือในครั้งนั้น มีคุณวรางคณา มุทุมล ที่เริ่มต้นจากอาสาสมัครเมื่อ 20  ปีที่แล้ว ได้กลายเป็นหนึ่งในผู้นำองค์กรที่ยังคงมุ่งมั่นทำงานเพื่อเด็ก ๆ จนถึงวันนี้  

คุณวรางคณา มุทุมล ผู้อำนวยการยุทธศาสตร์ คุณภาพโครงการและผลกระทบ แห่ง เซฟ เดอะ ชิลเดรน  คือหนึ่งในผู้ที่เริ่มต้นเส้นทางการทำงานกับองค์กรเซฟ เดอะ ชิลเดรน ในฐานะอาสาสมัครหลังเหตุการณ์สึนามิ ได้เล่าถึงประสบการณ์ในช่วงเวลานั้นว่า "ดิฉันได้เริ่มลงพื้นที่ไปหลังจากเหตุการณ์สินามิ 6  เดือน สิ่งที่เห็นคือ เด็ก ๆ ยังคงกลัวทะเล ไม่กล้าออกจากบ้าน และผู้ปกครองก็ขอให้เราช่วยหาวิธีที่จะทำให้ลูก ๆ กลับมามีความสุขอีกครั้ง เราจึงช่วยเยียวยาและฟื้นฟูความมั่นใจเด็ก ๆ ผ่านกิจกรรมศิลปะ ดนตรี และละคร"  

20 ปี ต่อมา คุณวรางคณายังคงยืนหยัดในพันธกิจของเซฟ เดอะ ชิลเดรน  โดยเธอกล่าวว่า "เซฟ เดอะ ชิลเดรน  ทำให้ฉันเห็นว่าเด็กทุกคนมีศักยภาพ และเรามีบทบาทสำคัญในการช่วยให้พวกเขาได้ค้นพบพลังในตัวเอง การช่วยเหลือเด็กไม่ใช่แค่การแก้ปัญหาระยะสั้น แต่เป็นการสร้างอนาคตที่ดีขึ้นสำหรับพวกเขาในระยะยาว"  

นอกจากการช่วยเหลือจากเหตุการณ์ในประเทศไทยแล้ว เซฟ เดอะ ชิลเดรน  ยังมีบทบาทสำคัญในประเทศอื่น ๆ เช่น อินโดนีเซีย ซึ่งได้รับผลกระทบรุนแรงที่สุด องค์กรได้ช่วยเหลือเด็กชายมาร์ตูนิส วัย 7  ปี หลังจากต้องหาทางรอดชีวิตจากการอยู่ในป่าชายเลนนานถึง 21  วัน เรื่องราวของเขาจึงกลายเป็นแรงบันดาลใจถึงความเข้มแข็งของเด็ก ๆ และเป็นเครื่องยืนยันถึงความสำคัญของการช่วยเหลือในช่วงที่วิกฤตเช่นสึนามิในครั้งนั้น ในศรีลังกาและอินเดีย เซฟ เดอะ ชิลเดรน ได้ร่วมมือกับโรงเรียนและชุมชนเพื่อฟื้นฟูพื้นที่เรียนรู้และสร้างระบบเตรียมพร้อมรับมือกับภัยพิบัติในอนาคต   

บทเรียนสำคัญจากการทำงานในประเทศไทยและประเทศที่ได้รับกระทบข้างต้นแสดงให้เห็นถึงความจำเป็นในการสร้างความร่วมมือกับองค์กรท้องถิ่น ซึ่งสำคัญและยั่งยืนกว่าการบรรเทาทุกข์ในระยะสั้น  

นายกีโยม ราชู ผู้อำนวยการบริหาร เซฟ เดอะ ชิลเดรน กล่าวว่า "การทำงานของเราในเหตุการณ์สึนามิไม่ใช่แค่การช่วยเหลือในสถานการณ์ฉุกเฉิน แต่คือการสร้างรากฐานที่แข็งแกร่งเพื่อให้เด็กทุกคนได้รับโอกาสในการเติบโตและเรียนรู้ เราจะยังคงทำงานต่อไปเพื่อให้มั่นใจว่าไม่มีเด็กคนไหนถูกทิ้งไว้ข้างหลัง"  

20 ปีผ่านไป เซฟ เดอะ ชิลเดรน  ยังคงสานต่อภารกิจเพื่อปกป้องสิทธิเด็กและสร้างอนาคตที่สดใสให้กับเด็ก ๆ และเยาวชน สำหรับข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับงานของเซฟ เดอะ ชิลเดรน  และวิธีการสนับสนุน สามารถเยี่ยมชมได้ที่ savethechildren.or.th